รักบี้ฟุตบอล หรือ ที่เรียกกันสั้นๆว่า รักบี้ เป็นกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากโรงเรียนรักบี้ (Rugby School) ในเมืองรักบี้ ในเขตวอร์วิกเชียร์ ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1826
รักบี้ มีต้นกำเนิดที่ไม่น่าเชื่อ คือวันนหนึ่งในอังกฤษ ได้มีการแข่งขัน ฟุตบอล ในโรงเรียนรักบี้ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ วิลเลียม เวบบ์ เอลลิส (William Webb Ellis)ที่ไมได้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ได้อุ้มลูกบอลวิ่งนำไปวางในประตูทีมคู่แข่ง จะด้วยความจงใจหรือไม่ก็ตาม แต่การเล่นที่แปลกประหลาดในครั้งนั้นได้สร้างเสียงหัวเราะและความสงสัยให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น และมีการพูดถึงอย่างแพร่หลายในอังกฤษ โดยเฉพาะโรงเรียนต่างๆในอังกฤษ ต่อมานักเรียนของโรงเรียนเคมบริดจ์ ได้เกิดไอเดียนำเอาวิธีการเล่น เจ้าหนูเอลลีส ไปจัดการแข่งขันโดย ใช้ชื่อการแข่งนี้ว่า รักบี้เกมส์ (Rugby Games) หลังจากนั้นการเล่นลักษณะนี้ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น และได้มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงแก้ไขการเล่นเรื่อยมาจนมาเป็นกีฬา รักบี้ ฟุตบอล ในปัจจุบัน
รักบี้ เป็นกีฬาที่เป็นต้นกำเนิดของกีฬาอเมริกันฟุตบอล และเป็นกีฬายอดนิยมของหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ, ออสเตรเลียม, นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้
ประวัติกีฬารักบี้ฟุตบอลในประเทศไทย
สมาคมกีฬารักบี้ ถึงก่อตั้งครั้งแรกในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2482 และ ในปี พ.ศ. 2559 ได้เปลี่ยนชื่อสมาคมกีฬารักบี้แห่งประเทศไทย เป็นชื่อ ‘สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์’ และใช้เป็นชื่อของสมาคมกีฬา รักบี้ฟุตบอล ของประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน
แชมป์กีฬารักบี้
ประเทศที่กีฬารักบี้เป็นกีฬาอันดับ 1 ของประเทศ คือ ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, เวลส์ และ แอฟริกาใต้
รายการแข่งขันกีฬารักบี้ ฟุตบอล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือรายการ “รักบี้ชิงแชมป์โลก” (Rugby World Cup)และทีมที่ได้ครองแชมป์มากที่สุด ก็คือ ทีมชาตินิวซีแลนด์ ได้ไปทั้งหมด 3 ครั้ง คือในปี 1987, 2011 และ 2015 ส่วนทีมชาติออสเตรเลียและทีมชาติแอฟริกาใต้ได้แชมป์ไปคนละ 2 ครั้ง
การแข่งขัน ‘รักบี้ชิงแชมป์โลก’ จะแข่งกันทุก 4 ปี และเจ้าภาพในครั้งถัดไปคือประเทศ ฝรั่งเศส โดยจะแข่งในปี 2023
กติกาการเล่นรักบี้ฟุตบอล
รักบี้ ใช้เวลาในการแข่ง 80 นาที ครึ่งละ 40 นาที ใช้ผู้เล่นทีมละ 15 คน (ไม่รวมตัวสำรอง) กติกาการเล่น คือ ทั้งสองทีมต้องทำพยายามพาบอลไปวางที่เส้นประตูของอีกทีมให้ได้ โดยในการส่งบอลจะทำได้ 2 วิธีคือ แบบแรก ใช้มือขว้าง โดยห้ามขว้างไปข้างหน้า จะขว้างย้อนหลังหรือขว้างแนวขวางก็ได้ การส่งแบบที่สอง คือ การเตะส่ง การเตะส่งจะเตะไปทางทางไหนก็ได้ ทีมใดนำบอลไปวางที่เส้นประตูทีมคู่แข่งได้ เรียกว่า “การวางทรัย” จะได้ 5 คะแนน หลังจากนั้นจะได้เล่นต่อโดยการเตะเปลี่ยนอีก 2 คะแนน ถ้าได้ฟาวล์จะได้ทำคะแนนด้วยการเตะฟรีคิก เรียกว่า “ดร็อปโกล” จะได้ 3 คะแนน ส่วนการเตะลูกโทษ (Penetal Kick) จะได้ 3 คะแนนเช่นกัน การทำฟาวล์ไม่รุนแรงจะใช้การสกรัมเพื่อให้เริ่มเกมใหม่ แต่ถ้ามีการทำฟาวล์รุนแรงจะให้เตะลูกโทษ สนามรักบี้มีกว้างไม่เกิน 70 เมตรและมีความยาวไม่เกิน 100 เมตร ส่วนประตูมีความยาวไม่เกิน 22 เมตร