
ฟุตบอลชายหาด หรือ บีซ ซอกเกอร์ เดิมทีไม่ใช้กีฬา แต่เป็นการเล่นฟุตบอลกันบนชายหาด เพื่อเป็นการพักผ่อน และได้รับความนิยม จนมีกลุ่มคนที่รวมตัวกันโดยมี นักฟุตบอลอาชีพ, นักฟุตบอลสมัครเล่น, นักธุรกิจที่ต้องการให้การเล่นบอลบนชายหาดเกิดเป็นกีฬา ที่มีกติกาการเล่นที่แน่นอน เมื่อได้ข้อสรุปของรูปแบบการเล่นแล้ว จึงได้ก่อตั้งเป็นสมาคมบีซซอกเกอร์ เวิลด์ไวด์ ขึ้น และได้เปิดให้มีการแข่งขันฟุตบอลชายหาด ทั้งในระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นในเวลาต่อมา
ฟุตบอลชายหาด แตกต่างจากฟุตบอลแบบอื่นอย่างไร
สิ่งที่แตกต่างที่สุด ระหว่างฟุตบอลทั่วไปกับฟุตบอลชายหาด คือ พื้นสนามที่เป็นทรายที่ไม่ได้เรียบทั้งสนาม การเล่นกับลูกฟุตบอลจะทำได้ยากเมื่อบอลอยู่บนพื้นทราย ไม่ว่าจะเป็น การยิง, การส่ง, การเลี้ยง รวมถึงนักฟุตบอลต้องใช้แรงมากกว่าปกติในการเล่น เพราะต้องวิ่งไปบนพื้นทรายที่มีความหนืด ในการแข่งฟุตบอลชายหาดเราจึงมักเห็น ทริคการเล่นบอลกับลูกกลางอากาศเป็นส่วนใหญ่ เช่น การตีลังกายิงประตู, การงัดบอลขึ้นเพื่อส่ง, การงัดบอลขึ้นเพื่อยิง, การที่ผู้รักษาประตูขว้างลูกไปข้างหน้าไกลๆเพื่อส่งบอล
สนามฟุตบอลชายหาด
สนามฟุตบอลชายหาด ตามกติกาต้องมีความกว้าง 26-28 เมตร และยาว 35-37 เมตร ประตูกว้าง 5.5 เมตร และสูง 2 เมตร นักฟุตบอลชายหาดต้องเล่นกันด้วยเท้าเปล่า ฝ่ายจัดการแข่งขันต้องเตรียมสนามให้พร้อม ไปตามมาตรฐาน ทรายที่นำมาต้องไม่มี เปลือกหอย หรือ เศษแก้ว หรืออะไรก็ตามที่สามารถบาดเท้าผู้เล่นได้
ลูกฟุตบอลชายหาด
ลูกฟุตบอลชายหาด จะมีความเบากว่าลูกฟุตบอลทั่วไป โดยมีน้ำหนัก 400-440 กรัม มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 70 ซม.โดยประมาณ ลูกมีแรงดันลูกที่ 0.4-0.6 ที่ระดับน้ำทะเล ลูกฟุตบอลชายหาดที่ได้มาตรฐานจะมีเครื่องหมาย FIFA และ IMP กำกับอยู่บนลูกฟุตบอล
กติกาการเล่นฟุตบอลชายหาด
ฟุตบอลชายหาด มีกติกาการเล่นคล้ายกับฟุตซอล โดยจะเล่นกันทีมละ 5 คน ตัวสำรองอีก 7-8 คน ตัวสำรองสามารถเปลี่ยนตัวเข้า/ออกในสนามได้ตลอด แต่จะทำได้เมื่อลูกตาย(มีการหยุดเวลา)เท่านั้น
ฟุตบอลชายหาด มีแทคติคการเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งรับ การเข้าทำประตูแบบต่างๆ เพราะผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวได้ตลอดเวลา การที่กีฬาชนิดนี้มีรูปแบบการเล่นที่มากมาย ทำให้ผู้รับชมได้รับความสนุกมากขึ้น
เวลาในการเล่นฟุตบอลชายหาด
ฟุตบอลชายหาด แข่งกัน 3 ช่วง(พีเรียด) ช่วงละ 12 นาที ในการแข่งขันจะมีการหยุดเวลาเมื่อ ทำประตูได้, ลูกออกข้าง, มีการทำฟาวล์ ทุกอย่างจะถูกกำกับโดยผู้ตัดสินที่ 3 ที่ดูแลเรื่องเวลาโดยเฉพาะ เวลาทั้ง 3 พีเรียดเวลาแข่งจริงจะไม่ใช่ 36 นาที แต่ฟุตบอลชายหาดคู่หนึ่งจะเล่นกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่ว่ามีการหยุดเวลามากแค่ไหน
เมื่อหมดเวลาการแข่งขันทั้ง 3 พีเรียดแล้ว ทั้งสองทีมมีสกอร์เท่ากัน จะมีการต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 3 นาที และถ้ายังเสมอกันอีก จะมียิงลูกจุดโทษตัดสิน แบบ ‘ซัดเดนเดธ’ (Sudden Death) คือการผลัดกันยิงข้างละ 1 คน ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีผู้ที่ยิงพลาด
ใบเหลือง-ใบแดง
โทษใบเหลือง ในกีฬาฟุตบอลชายหาด จะไม่เหมือนฟุตบอลทั่วๆไป คือ ผู้ที่โดนใบเหลือง จะต้องออกไปนั่งที่ข้างสนาม 2 นาที เมื่อครบเวลาแล้วจึงจะได้กลับไปเล่นต่อในสนาม แม้จะได้เล่นต่อแต่โทษใบเหลืองจะยังคงอยู่ ถ้าผู้เล่นคนนั้นโดนใบเหลืองอีก 1 ใบ จะเท่ากับ 1 ใบแดง ผู้เล่นจะถูกเชิญให้ออกจากสนามและจะไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้อีกในแมตช์นั้น
การเล่นลูกฟรีคิก
ฟุตบอลชายหาด มีการเล่นลูกฟรีคิก 2 แบบ คือ
- การได้ฟาวล์ในแดนตัวเอง – ผู้เล่นที่โดนทำฟาวล์จะเป็นคนเตะฟรีคิกตรงจุดที่โดนทำฟาวล์เท่านั้น ส่วนผู้เล่นคนอื่น จะยืนตรงไหนก็ได้ แต่ต้องไม่บังทางบอล
- การได้ฟาล์วในแดนคู่แข่ง – ผู้เล่นที่โดนทำฟาวล์จะเป็นคนเตะฟรีคิกตรงจุดที่โดนทำฟาวล์เท่านั้น ส่วนการยืน ผู้เล่นของทีมที่ได้ฟาวล์ ต้องยืนอยู่หลังจุดที่จะเตะฟรีคิก ส่วนผู้เล่นทีมที่เสียฟาวล์ต้องยืนอยู่หลังฟุตบอลมาทางแดนตัวเอง การกำหนดให้ผู้เล่นยืนลักษณะนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมรุก งัดบอลไปให้เพื่อนร่วมทีมที่ไปยืนรอยิงหรือโหม่งที่หน้าประตูทีมตรงข้าม
การเล่นลูกข้างของฟุตบอลชายหาด
ฟุตบอลชายหาด มีวิธีส่งลูกเข้าสนาม 2 แบบ เมื่อลูกบอลออกข้างสนาม 1. ส่งบอลด้วยเท้าเหมือนฟุตซอล 2. ส่งบอลด้วยการทุ่มเหมือนฟุตบอลสนามใหญ่ การส่งทั้งสองแบบ ต้องทำภายใน 4 วินาที ไม่เช่นนั้นจะโดนจับฟาวล์ และให้อีกทีมเป็นฝ่ายส่งบอลเข้าสนามแทน
การนับคะแนนของฟุตบอลชายหาด
ในการแข่งขัน ฟุตบอลชายหาด แบบแบ่งกลุ่ม จะไม่มีการเสมอกัน ทั้งสองทีมต้องเล่นกันให้ได้ผู้ชนะ และการชนะในรูปแบบต่างๆ จะได้รับคะแนนที่ต่างกัน ดังนี้
- ชนะได้ในเวลาปกติได้ 3 คะแนน
- ชนะได้จากการต่อเวลาพิเศษได้ 2 คะแนน
- ชนะได้จากการยิงลูกจุดโทษได้ 1 คะแนน
- แพ้ ไม่ได้คะแนน
ส่วนการแข่งขัน ฟุตบอลชายหาด แบบ เหย้า-เยือน จะนำกฎการยิงประตูทีมเยือน (away goal) มาตัดลินทีมเข้ารอบด้วย
ยกตัวอย่าง อังกฤษ – ฝรั่งเศส
นัดแรก : เล่นที่สนามทีมชาติอังกฤษ (สกอร์จบที่ อังกฤษ 1-0 ฝรั่งเศส)
นัดที่ 2 : เล่นที่สนามทีมชาติฝรั่งเศส (สกอร์จบที่ ฝรั่งเศส 2-1 อังกฤษ) สกอร์รวม 2 นัด จะเท่ากันที่ 2-2 แต่ ทีมชาติอังกฤษ จะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป เพราะยิงประตูนอกบ้านได้มากกว่า คือ 1 ประตู ส่วนทีมชาติฝรั่งเศส ยิงประตูนอกบ้านไม่ได้เลย